Friday, May 16, 2008

7 วันใน California - III

วันพฤหัสบดี

วันนี้วางแผนไว้ว่าจะไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ อ่านคู่มือท่องเที่ยวเขาบอกว่าควรไปก่อนเวลาเปิดทำการนิดหน่อย จะได้ไม่รอคิวยาวมาก ก็ทำตาม



ออกจากบ้าน 9.15 น. ไปถึงก่อน 10 โมง ซึ่งเป็นเวลาเปิดทำการเล็กน้อย ต้องต่อคิวยาวตั้งแต่ตอนจ่ายเงินค่าจอดรถ นี่ขนาดยังไม่ถือว่าเป็นไฮซีซันนะ ไม่งั้นแถวจะยาวกว่านี้ ค่าจอดรถ 10 เหรียญ จอดรถเสร็จเดินไปต่อคิวรอรถลาก เพื่อไปยังสวนสนุก นั่งรถแ่ค่ประมาณ 3 นาทีก็ถึงก็รอคิวซื้อบัตรอีก คนละ 53 เหรียญ เที่ยวแค่ดิสนีย์แลนด์ปาร์ค ไม่รวมแคลิฟอร์เนียปาร์ค ถ้ารวมก็ 73 เหรียญ จากนั้นก็ไปรอคิวเข้าสวนสนุก สรุปแล้วเสียเวลารอตั้งแต่ต้นประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าจะเข้าไปในสวนสนุกจริง ๆ



ทางเข้าเป็นตึกรามร้านค้าขนาดไม่ใหญ่ให้ซื้ออาหาร ของขบเขี้ยว และของที่ระลึก สีสรรสวยงาม มีซิตี้ฮอลล์



และสถานีดับเพลิงด้วย



จากนั้นก็ต้องไปเข้าแถวรอเครื่องเล่นต่าง ๆ บางแห่งมีการจองตั๋วล่วงหน้าเราก็ไปถือตั๋วไว้ เขามีกำหนดเวลาเป็นช่วงเราต้องกลับมาเล่นตามเวลาที่กำหนดไว้บนตั๋วโดยไม่ต้องเข้าคิวรอ ก็เลยไปตีตั๋วล่วงหน้าสำหรับนั่งรถอินเีดียน่าโจนส์ไว้ มีเวลาเหลือนิดตั่งชั่วโมงหนึ่ง ไปหาอะไรกินดีกว่า สั่งแพนเค้กมิกกีั้เม้าส์ เพราะคิดว่าน่ารักดี (อยากเป็นเด็กอีก)



กินเสร็จยังมีเวลาเหลือก็เลยไปนั่งเรือรางไพแรตออฟดิคาริเบียน เข้าแถวประมาณ 20 นาที นั่งเรือไม่ถึง 10 นาที ก็นั่งเรือลอดถ้ำเหมือนในหนัง มันก็มืด ๆ เขาห้ามใช้แฟรชถ่ายรูป เลยได้ถ่ายเลย เล่นสนุกอย่างเดียว



พอเสร็จก็ถึงเวลาไปนั่งรถอินเดียน่าโจนส์ตื่นเต้นหวาดเสียวพอสมควร ที่ตื่นเต้นที่สุดก็เป็นตอนที่ต้องหลบก้อนหินก้อนใหญ่กลิ้งมาเหมือนในหนัง รอบหนึ่งแค่ประมาณ 5 นาที ถ่ายรูปไม่ได้อีกเหมือนกัน



จากนั้นก็ไปนั่งรถธันเดอร์เมาเทนท์ หวาดเสียวดี รอบหนึ่งแค่ 3 นาที อันนี้ไปถ่ายคนอื่นมาให้ดูได้



ชักเริ่มหิว ไปหาอะไรกินดีหนอ อาหารที่นี่ค่อนข้างแพง คนส่วนใหญ่จะนำอาหารมาทานเองโดยเฉพาะพวกที่มีลูกเด็กเล็กแดง แต่เราสองคนขี้เกียจ ก็ต้องซื้อเอาแหละ เอมาถึงแคลิฟอร์เนีย ไม่กินอาหารแม็กซิกันก็แสดงว่ามาไม่ถึง เลยได้กินอาหารกลางวันเป็นแม็กซิกัน รสชาติพอใช้ จากนั้นก็ไปเดินเล่นรอบ ๆ ผ่านปราสาทสวย ๆ เป็นที่แสดงรายการโชว์เรียกว่า It's a Small world.



ตึกน่ารัก ๆ ใน Toon Town



เนี่ยก็ใน ตูนทาวน์



ในตูนทาวน์อีก



จากนั้นก็ไปนั่งรถ Autopia และดูโชว์ ฮันนี่ ไอ แชงค์ ดิออเดี่ยน สนุกดี เป็นโชว์หนังสามมิติ ดูสมจริง แค่นั้นเอง ขากลับแวะซื้อของที่ระลึกไปฝากเด็ก ๆ



มีคนสงสัยว่าโตป่านนี้แล้วไปทำไมที่ดิสนีย์แลนด์ อ๋อเพราะว่าตอนเป็นเด็กไม่มีโอกาสได้ไปนี่จ๊ะ

วันศุกร์กับวันเสาร์สุดท้ายไม่ได้ทำอะไรมากนอกจากไปตีกอล์ฟกับใช้เวลากับครอบครัวเท่านั้นเอง



ใครคิดถึงเมืองไทยแ่ต่ไม่มีเวลากลับบ้่านแคลิฟอร์เนียเป็นหนทางที่ดีที่สุด ไม่ไกลเหมือนเมืองไทย อากาศร้อนเกือบตลอดปี มีอาหารไทยกินเพียบ

Thursday, May 15, 2008

7 วันใน California - II

วันจันทร์

วันนี้มีโปรแกรมต้องไปปาล์มสปริง และค้างที่นั่น 2 คืน เช่ารถขนาดกลางออนไลน์ไ้ว้ก่อนมา แต่พอไปรับรถปรากฏว่ารถขนาดกลางหมด แต่เพราะต้องขนไม้ตีกอล์ฟ เราเลยต้องใช้รถขนาดใหญ่แทน ก็โอเคเพราะนั่งสบายกว่า ออกจากแอลเอ 9 โมงครึ่ง ฟ้าสลัว ๆ อากาศขมุกขมัว แอลเออยู่ฝั่งตะวันตก ใกล้ทะเล ปาล์มสปริงเป็นทะเลทรายอยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดินทางทิศตะวันออก พอขับไปซักพัก แดดเริ่มจัด ฟ้าเริ่มใสขึ้น อากาศเริ่มร้อน ระหว่างทางเห็นภูเขาสูงเป็นดินปนหินไม่มีต้นไม้ ข้างบนมีหิมะปกคลุม แปลกดีอุณภูมิระหว่างพื้นดินกับยอดเขาต่างกันมากเลย

เขามีบริการรถกระเช้าสำหรับผู้ที่อยากรู้ถึงความแตกต่าง ข้างล่างใส่เสื้อแขนกุด กางเกงขาสั้นเพราะร้อน แต่ให้เตรียมเสื้อกันหนาวเพื่อไปใส่ตอนอยู่ข้างบน บังเอิญเราไม่ได้แวะ เพราะอยากตีกอล์ฟเ็ต็มแก่



พอผ่านไปถึง Yucca Valley จะมองเห็นทุ่งกังหันลมตามข้างทางยาวหลายกิโล กังหันลมนี้เป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับใช้ในแถบทะเลทรายและพื้นที่ใกล้เคียง

ขับรถประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึง La Quinta Resort (ลา คิงตา รีสอร์ท) เป็นหนึ่งในรีสอร์ทชื่อดังในแถบปาล์มสปริง แต่คนส่วนใหญ่จะมาพักผ่อนในช่วงฤดูหนาว เพราะอุณภูมิที่นี่ิกำลังดี แต่มาตอนนี้ก็ดีหน่อยตรงที่คนไม่ค่อยเยอะและอากาศก็ยังไม่ร้อนจัดจนเกินไป

เราจองสนามกอล์ฟไว้ตอนบ่ายสอง โชคไม่ดี อุณหภูมิทะลุ 40 องศาเซลเซียสวันนี้ ร้อนตับแลบ แต่เนื่องจากไม่มีคนในสนามกอล์ฟเลย ใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่งก็ตีเสร็จ วิวสนามสวยมาก ถึงจะร้อนแต่ยังอดชื่นชมไม่ได้




อาบน้ำอาบท่าให้คลายร้อน มองหาที่กินข้าวเย็น เห็นในคู่มือนักท่องเที่ยวเป็นร้านอาหารเมดิเตอร์เรเนียน ท่าทางดี ก็เลยโทรไปจองโต๊ะไว้ 6 โมงครึ่ง ไปถึงแ้ล้วเห็นราคาในเมนูแล้วก็อึ้งหน่อย ๆ ฮ่า ๆ ไม่เป็นไร เรามาพักผ่อน ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว หนึ่งในอาหารที่ีเราสั่งเป็นอาหารทะเลจานเย็น มีก้ามปูคิงขนาดใหญ่ ก้ามปูขนาดเล็ก กุ้งล้อปสเตอร์ หอยนางรม หอยลาย ทูน่า หอยเชลล์ ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อดิบนอกจากก้ามปูกับล้อปสเตอร์เท่านั้น ก็อร่อยดี ทานอาหารเสร็จ ตัวเบาโหยงเลย



หลังอาหารกลับโรงแรมเปิดทีวีดู เห็นโฆษณาเครื่องย่างเนื้อ ถึงได้รู้ว่าเชฟที่ร้านอาหารนี้เขามีชื่อเสียงนี่เอง มิน่าหละ

วันอังคาร

กะว่าจะตีกอล์ฟสองรอบวันนี้ จองไว้แล้วตอน 9 โมงเช้ารอบหนึ่ง ไปถึงสนามก่อนแปดโมงเล็กน้อย เพื่อทานอาหารเช้าก่อน หลังจากนั้นก็ไปอุ่นเครื่องที่สนามไดร์ฟกอล์ฟก่อน เขารวมให้ในแพ็คเก็จเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม วันนี้อากาศไม่ร้อนเหมือนเมื่อวาน ซัีก 37 เห็นจะได้ ตีเสร็จ 11 โมงครึ่ง กลับไปอาบน้ำอาบท่า ยังมีเวลาเหลือ เพราะรอบที่สองจองไว้ที่ บ่าย 4 โมงเย็น เลยขับรถออกไปที่ทรัมป์คาสิโน ไปกินกลางวันและอาจเสี่ยงโชคเล็กน้อย ไปถึงแล้วค่อนข้างผิดหวังเพราะข้างในไม่หรูอย่างที่คิด อาหารกลางวัันแบบบุฟเฟท์ก็ราคาถูก คุณภาพไม่ดี มิหนำซ้ำยังเสียพนันอีกต่างหาก เฮ้อ..



บ่ายสามกลับมาถึงรีสอร์ท ออกไปตีกอล์ฟรอบสุดท้าย ไม่มีคนเลย เหมือนมีสนามกอล์ฟส่วนตัวยังไงยังงั้น หรือว่าคนอื่นเขาฉลาด หลบร้อนกันหมด เหลือแต่เราสองคนก็ไม่รู้แฮะ รอบ ๆ สนามกอล์ฟเป็นบ้านสวย ๆ สไตล์สเปน หลังคาแดง ส้ม หรือน้ำตาลอ่อน ราคาค่อนข้างแพง สองห้องนอนราคาครึ่งล้านเหรียญ ส่วนใหญ่เป็นบ้านตากอากาศของผู้มีอันจะกินทั้งหลาย ที่มักจะมาอยู่ที่นี่ช่วงหน้าหนาว เพราะอากาศดี



ถึงเวลาอาหารเย็น นึกถึงร้านอาหารจีนที่ขับรถผ่านตอนกลางวัน เลยไปลองทานดู สองคนกับข้าวสั่งกับขัาวสามอย่าง เขาเสริฟจานเบิ้อเริ้่ม กินกันไม่หมด มื้อนี้ค่อยยังชั่ว รวมทิปแค่ 40 กว่าเหรียญ ถึงห้องนอนหลับปุ๋ยเพราะเหนื่อยมาก

วันพุธ

วันนี้ต้องเช็คเอ้าท์ซะแล้ว ถ้าเรามีความสุขเวลามักผ่านไปเร็ว ออกจากรีสอร์ทเกือบสิบโมงเช้า แวะทานอาหารกลางวันที่ร้านขายผลไม้แห้งมีชื่อ รวมทั้งแวะซื้อของฝากไปด้วย ว่าจะไปเล่นคาสิโนชื่อดังซะหน่อย แต่ว่ามัีนไม่เปิดเลยอด



แต่กะว่าจะไปแวะช้อปปิ้งที่เอ้าเล็ทมอลล์ระหว่างทาง เพราะตอนมาสังเกตว่าค่อนข้างใหญ่มีของแบรนด์เนมขายเยอะ คนข้างตัวซื้อของเยอะแยะ ไม่รู้ถูกใจอะไรนักหนา เราไม่เห็นว่ามันจะราคาถูกตรงไหน เลยไม่ซื้ออะไรมากเสื้อสองตัวแค่นั้นเอง

7 วันใน California - I

May 2005

วันอาทิตย์

ถึงแอลเอตั้งแ่ต่เมื่อวาน แต่เล่นกับหลานไม่ได้ไปไหนทั้งวัน วันนี้มีนัดกินข้าวกลางวันกับเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยในเมืองไทยด้วยกัน ที่ร้านอาหารใกล้ ๆ กับวัดไทยในลอสแิองเจิลลิส ประมาณเที่ยง ยังพอมีเวลา ก็เลยพากันไปเดินเล่นที่รีดอนโดบีช ขับรถจากบ้านน้องชายสามีไปประมาณ 5 นาทีเอง



อากาศกำัลังดี ประมาณ 20 องศา ที่ชายทะเลลมเย็น แต่แดดจัด มีคนมาเล่นน้ำหลายคนเหมือนกัน แต่จะให้เหมือนที่ชายหาดเมืองไทยคงไม่ได้ ไม่มีส้มตำ ไก่ย่างขายเกลื่อน ไม่มีที่อาบน้ำจืด และน้ำทะเลก็เย็นด้วย



ตามเนินข้าง ๆ หาดมีดอกไม้สวย เดินไปอีกนิดเป็นท่าเทียบเรือ จัดไว้สวยงาม




มีทางเดินเท้าสำหรับผู้ที่มาเดินเล่น ที่นี่ดีนะมีการจัดที่จัดทางให้คนมาเล่นสเก็ตหรือปั่นจักรยาน มีร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก เป็นสัดส่วนไปจากชายหาด


เดินไปเดินมา 11.00 น ซะแล้ว ต้องขับรถไปฮอลลี่วูดนอร์ธ จากรีดอนโดบีชไปก็ไกลเหมือนกัน ยิ่งการจราจรของลอสแองเจิลลิสนะเหมือนเมืองไทยเลย รถติดทุกวัน ถึงร้านอาหารบัวสยาม ประมาณเที่ยงพอดีเพื่อนมารออยู่แล้ว ดีใจจังนาน ๆ ได้เจอเพื่อนที




ร้านอาหารตั้งอยู่ในถิ่นที่มีคนไทยเยอะมาก ใกล้ ๆ วัดไทยที่แอลเอ ร้านนี้มีอาหารจานไม่ใหญ่ให้สั่งมาทานกันในราคาจานละ 2.5 เหรียญ (ขนาดธรรมดาราคา 4.95 เหรียญ) เช่นขนมจีนน้ำยา น้ำยาป่า น้ำเงี้ยว หรือแกงเขียวหวาน เย็นตาโฟ ข้าวเหนียวไก่ย่าง ลาบต่าง ๆ เนื้อน้ำตก ซุปหน่อไม้ โอ้โหรสชาติอาหารเหมือนเมืองไทยจริง ๆ เราสั่งจนน้องที่ร้านอาหารต้องถามว่าเอาหมดหรือพี่ ฮ่า ๆ ขอโทษเถอะค่ะคุณน้อง พี่ไม่ได้ทานอาหารรสชาติอย่างนี้มานาน ยกมาให้พี่เถอะ อย่าถามเลย



กินข้าวเสร็จมีเวลา ก็เลยไปดูวัดไทยเสียหน่อย ไหน ๆ ก็มาแล้ว จากร้่านอาหารไปก็ขับรถประมาณสิบนาทีได้



วัดเหมือนวัดในเมืองไทยไม่มีผิดเพี้ยน เขามีขายอาหารรอบ ๆ วัดด้วย ไม่เคยเห็นข้าวเหนียวมูลหน้าตาดี อย่างนี้มานาน อดใจไม่ไหว ขนมเบื้องไส้หวานและเค็ม หมูย่างกลิ่นยั่วน้ำลาย เหมือนได้กลับเมืองไทยโดยไม่ต้องนั่งเครื่องบินยี่สิบชั่วโมง


คุยไปคุยมาเกือบสี่โมงเย็นแล้ว ต้องกลับบ้านเพราะเดี๋ยวรถติดแย่เลย ใช้เวลากับเื่พื่อนไม่ถึง 4 ชั่วโมง น้ำหนัีกขึ้น 5 โลมั้ง เฮฺ้อ


แถมรูปต้นส้มแถววัด